แมวของคุณกำลังเครียดอยู่หรือเปล่า?

Score5 (2 Votes)

การเลียขนมากเกินไปและการเสปรย์ปัสสาวะของแมว: แมวคุณกำลังเครียดอยู่หรือเปล่า?

มาค้นหาว่าปัญหาการเลียขนที่มากเกินไป และการเสปรย์ปัสสาวะของแมวเป็นสัญญาณของความเครียดหรือไม่

เนื่องจากแมวเป็นสัตว์ที่ไวต่อสภาพแวดล้อมมาก แต่ก็เก่งในการซ่อนอาการเมื่อมีบางอย่างผิดปกติด้วยเช่นกัน เพราะเหตุนี้ เราจึงมักมองข้ามสัญญาณความเครียดในแมวได้ง่าย  อาการต่างๆเช่น การเลียขนมากเกินไป หรือการปัสสาวะนอกกระบะทราย

มาร่วมกันเรียนรู้ว่าควรสังเกตสัญญาณใดบ้างที่อาจบอกได้ว่าแมวของคุณกำลังเครียดอยู่ และคุณสามารถมีส่วนช่วยลดความเครียดในแมวได้อย่างไร

2024-11-21_C_C07863(300x194).jpg

ทำความเข้าใจการเลียขนมากเกินไปของแมวว่าเป็นสัญญาณของความเครียด

แมวเป็นสัตว์ที่รักความสะอาดมาก จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่คุณจะเห็นแมวของคุณเลียขนตัวเองเป็นประจำ อย่างไรก็ตาม การเลียขนมากเกินไปของแมว ซึ่งเป็นการเลียขนที่บ่อยครั้งหรือนานเป็นพิเศษ อาจเป็นสัญญาณว่าแมวของคุณกำลัง แสดงอาการวิตกกังวล (Anxious) หรือมีภาวะเครียด (Stressed) การเลียขนจะหลั่งสารเอ็นดอร์ฟินที่ทำให้เกิดความรู้สึกที่ดี ซึ่งช่วยให้แมวสงบลงได้ แต่สำหรับแมวบางตัวพฤติกรรมนี้อาจกลายเป็นพฤติกรรมย้ำทำ หรือ พฤติกรรมตามแรงกดดัน ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ทำซ้ำๆ อย่างต่อเนื่องและไม่สามารถควบคุมได้

แมวปัสสาวะนอกกระบะทราย : สัญญาณของความวิตกกังวลหรือไม่?

การปัสสาวะนอกกระบะทราย หรือที่เรียกว่าการเสปรย์ปัสสาวะไปทั่ว เป็นอีกสัญญาณหนึ่งที่อาจบ่งบอกถึงความเครียดในแมว โรคทางเดินปัสสาวะบางชนิดก็อาจนำไปสู่อาการนี้ได้เช่นกัน ดังนั้น คุณควรปรึกษาสัตวแพทย์ก่อนที่จะสรุปว่าเป็นปัญหาจากความเครียด

แมวอาจปัสสาวะนอกกระบะทรายเนื่องจากเกิดการเปลี่ยนแปลงในสภาพแวดล้อมตามปกติของการขับถ่ายของพวกเค้า ไม่ว่าจะเป็นกระบะทรายที่สกปรก การเปลี่ยนตำแหน่งการวาง หรือเปลี่ยนชนิดของทรายแมว การมีเสียงรบกวนที่เพิ่มขึ้น หรือการเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมอื่น ๆ ที่อาจรบกวนความสงบแมวของคุณ ในกรณีนี้คุณอาจพบว่าแมวจะเปลี่ยนไปปัสสาวะบนพื้นผิวแนวนอน เช่น พรมและพื้น

หากคุณสังเกตเห็นว่าแมวของคุณตั้งใจที่จะปัสสาวะภายในบ้าน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบนพื้นผิวในแนวตั้ง พวกมันอาจกำลังทำเครื่องหมาย (Marking) หรือพ่นปัสสาวะ (Spraying) อยู่ สิ่งนี้หมายถึงการทำเครื่องหมายชนิดหนึ่งที่แมวจะพ่นปัสสาวะลงบนพื้นผิวแนวตั้ง เช่น ผนัง เนื่องจากในปัสสาวะมีฟีโรโมนที่เป็นเอกลักษณ์ของแมวแต่ละตัว ดังนั้นการปัสสาวะจึงเป็นวิธีหนึ่งในการ "ทำเครื่องหมายกำหนดอาณาเขต" ให้กับแมวตัวอื่นๆได้ด้วย

cat-sits-bowl-food-wooden-floor.(300x223).jpg

สัญญาณความเครียดอื่น ๆ ในแมว

การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมสามารถเป็นข้อบ่งชี้ที่ชัดเจนว่าแมวของคุณกำลังเครียด (Stressed) ได้

ตัวอย่างพฤติกรรมที่มักพบได้:

  • การข่วนวัตถุ หรือพื้นผิวมากเกินไป
  • การร้องเรียก หรือร้องหง่าวที่ยาวนานกว่าปกติ
  • การเก็บตัว หรือหลบซ่อน
  • ความก้าวร้าวต่อคนหรือสัตว์เลี้ยงอื่น ๆ
  • ปฏิเสธที่จะเข้ามาในบ้าน หรือออกไปนอกบ้าน
  • การระแวดระวัง และตกใจง่ายขึ้น
  • การไม่ตอบสนองในเรื่องราวตามปกติ
  • ต้องการความสนใจที่มากกว่า หรือน้อยกว่าปกติ
  • หมดความสนใจในการเล่น หรือพฤติกรรมล่าตามปกติ

แมวทุกตัวมีความแตกต่างกัน ดังนั้นสิ่งสำคัญที่สุดก็คือคุณต้องรู้ว่าอะไรคือพฤติกรรมปกติของแมวคุณ ด้วยวิธีนี้ คุณจะสามารถสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว และรับรู้ได้ถึงสัญญาณของความเครียด และลงมือช่วยเหลือ หรือหาหนทางแก้ปัญหาที่พวกเค้าประสบอยู่

2024-11-21_DSC00355(305x 200).jpg

วิธีลดความเครียดในแมว

การช่วยให้แมวที่วิตกกังวลสงบลง คุณจะต้องหาปัจจัยกระตุ้นความเครียดให้ได้ก่อน

เราขอยกตัวอย่างของสาเหตุทั่วๆไปที่มักทำให้เกิดความเครียดและความวิตกกังวลในแมว:

  • การพาสัตว์เลี้ยงตัวอื่นๆ เข้ามาในบ้าน
  • การแข่งขันเพื่อแย่งชิงทรัพยากรกับแมวตัวอื่น ๆ (ได้แก่ที่กินอาหาร ที่ขับถ่าย ที่หลบซ่อน หรือพื้นที่ปลอดภัย)
  • แมวที่ไม่คุ้นเคยเข้ามาในบริเวณบ้าน
  • พฤติกรรมก้าวร้าวจากแมวจรจัด หรือแมวที่ไม่ได้ทำหมัน ตัวอื่นๆ
  • การขาดโภชนาการที่ดี น้ำสะอาดที่ไม่เพียงพอ ไม่ได้มีการเล่น หรือการออกกำลังกายที่เพียงพอ
  • กระบะทรายที่สกปรก หรือคับแคบ
  • บริเวณที่กินอาหาร พักผ่อน หรือขับถ่ายที่มีเสียงดัง
  • การได้รับความสนใจที่มากเกินไป หรือการถูกจับต้องอย่างรุนแรง
  • สมาชิกใหม่ในครัวเรือน โดยเฉพาะเด็กและทารก
  • การย้ายบ้าน หรือการปรับปรุงบ้าน
  • การมีแขกเข้ามาในบ้านเป็นจำนวนมาก
  • การเปลี่ยนแปลงในกิจวัตรประจำวัน เช่น เจ้าของอยู่ Work from home จากที่ปกติออกไปทำงานนอกบ้าน

2024-11-21_DSC00416 (308x200).jpg

ขั้นตอนต่อไปคือการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก (Positive Change) ที่คุณสามารถช่วยกำจัด ควบคุม หรือช่วยลดผลกระทบของปัจจัยต่างๆที่กระตุ้นความเครียดในแมวได้:

  • จัดหาอาหารคุณภาพดีและน้ำสะอาดให้เพียงพอสำหรับแมวของคุณ
  • จัดหากระบะทราย ชามอาหาร และที่นอนเพิ่มขึ้นอย่างละหนึ่งชิ้นจากจำนวนแมวในบ้าน
  • คุณควรมีกระบะทรายหนึ่งอันต่อสัตว์หนึ่งตัวและต่อชั้นของบ้าน ควรตักมูลแมวออกจากกระบะทรายทุกวัน และทำความสะอาดกระบะทรายทั้งหมดด้วยสบู่อ่อนๆ ทุกสัปดาห์ หลีกเลี่ยงกระบะทรายที่มีฝาปิดที่อาจทำให้แมวของคุณตกใจได้
  • วางกระบะทรายให้ห่างจากชามอาหารและน้ำ และวางทั้งสองอย่างไว้ในบริเวณที่เงียบสงบ
  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่ากระบะทรายมีขนาดเหมาะสม (มีขนาดใหญ่กว่าตัวแมว 1.5 เท่า) และทำความสะอาดเป็นประจำ
  • พาสัตว์เลี้ยงใหม่เข้ามาบ้านอย่างช้าๆ และควบคุมได้
  • จัดหาของเล่น และกิจกรรมต่างๆให้กับแมวเพื่อกระตุ้นพฤติกรรมตามปกติ
  • จัดหาสถานที่กว้างขวางเพื่อวิ่งเล่น พร้อมกับที่ซ่อน และพื้นที่สูงสำหรับปีนป่าย
  • จัดหาพื้นที่เงียบสงบ และปลอดภัยให้แมวของคุณได้หลบหลีกจากปัจจัยกระตุ้นความเครียดที่อาจเกิดขึ้น
  • ใช้มุ้งลวด และประตูสำหรับสัตว์เลี้ยงที่ใช้ไมโครชิปเพื่อป้องกันไม่ให้แมวตัวอื่นเข้ามา
  • พิจารณาฝากแมวที่อ่อนไหวไว้กับเพื่อน หรือสถานรับฝากแมวที่ไว้ใจได้ในช่วงเวลาที่สร้างตึงเครียด เช่น การย้ายบ้านใหม่
  • รักษากิจวัตรประจำวันให้คาดเดาได้มากที่สุด โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่มีการเปลี่ยนแปลง
  • คุณสามารถให้ความบันเทิงแก่แขกของคุณได้ แต่ต้องห่างจาก "พื้นที่สงบปลอดภัย" ของแมว และให้แขกไม่เข้าไปในพื้นที่แมวของคุณ
  • หากคุณกำลังจะต้อนรับสมาชิกใหม่ (เด็กทารก) ให้แมวของคุณคุ้นเคยกับการเปลี่ยนแปลงก่อนการมาถึง ตัวอย่างเช่น ทำให้พวกมันคุ้นเคยกับสิ่งของ เฟอร์นิเจอร์ และการจัดวางบ้านใหม่ และเปิดเสียงทารกเพื่อทำให้พวกพวกเค้าค่อยๆคุ้นเคยกับเสียงใหม่ๆ
  • คอยดูแลเด็กเล็ก และทารกรอบๆ แมวของคุณเสมอ และแนะนำพวกเขาเรื่องการจับต้องอย่างอ่อนโยนและอย่าลืมที่จะให้มีการเว้นระยะห่าง

2023-03-07_R_11063 (300x200).jpg

ควรปรึกษาสัตวแพทย์เมื่อใด

สัญญาณของความเครียดมักจะถูกเข้าใจผิดว่าเป็นอาการของโรคอื่นๆ ได้แก่ การเลียขนมากเกินไปในแมว อาจมองว่าเกิดจากการแพ้ การติดหมัด หรือปัญหาผิวหนังอื่น ๆ ในขณะที่การปัสสาวะนอกกระบะทรายอาจเกิดจากโรคไต โรคทางเดินปัสสาวะ หรือโรคเบาหวานได้

ด้วยเหตุนี้ เราจึงแนะนำให้คุณไปพบสัตวแพทย์เสมอ หากคุณสังเกตเห็นสัญญาณที่เกี่ยวข้องกับความเครียดจากแมวของคุณ และจะยิ่งจำเป็นมากขึ้นหากคุณพบว่าแมวของคุณมีอาการอื่นๆร่วมด้วยเช่น อาการปวด พบปัสสาวะปนเลือด ท้องเสีย หรือน้ำหนักเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ สัตวแพทย์จะสามารถวินิจฉัยได้อย่างตรงสาเหตุ และวางแผนจัดการการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังสามารถแนะนำผู้เชี่ยวชาญด้านพฤติกรรมได้หากจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือในด้านดังกล่าว

การรู้จักสัญญาณความเครียดในแมว

แมวเป็นสิ่งมีชีวิตที่อ่อนไหวอย่างมากและเสี่ยงต่อความเครียดได้ง่าย แต่สัญญาณที่แสดงออกอาจแตกต่างกันอย่างมากในแมวแต่ละตัว การรู้ว่าอะไรคือพฤติกรรมปกติของแมวตัวโปรดของคุณ การคอยสังเกตการเปลี่ยนแปลง และการตอบสนองอย่างรวดเร็ว เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการช่วยให้พวกเขารู้สึกสงบและปลอดภัยอีกครั้ง

DSC09203 (300x200).JPG

ให้คะแนนสำหรับเนื้อหานี้: 5 4 3 2 1

เลือกผลิตภัณฑ์